เรื่องใกล้ตัว..รู้จักระบบบำบัดน้ำ

ระบบบำบัดน้ำ
ปัจจุบันระบบบำบัดน้ำในสระที่นิยมใช้มีอยู่ 3 ระบบ คือ

ระบบคลอรีน
เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคที่มีราคาถูก และนิยมใช้กันมากที่สุด อยู่ในรูปของเหลว เม็ด และผงคลอรีน วิธีใช้คือค่อยๆละลายลงในสระว่ายน้ำ แต่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ เมื่อค่า pH ในน้ำอยู่ระหว่าง 7.2 – 7.8 หากค่า pH สูงหรือน้ำในสระมีค่าความเป็นด่างมากก็จะต้องเติมกรดลงไปก่อน และถ้าน้ำในสระมีค่า pH ต่ำหรือมีค่าความเป็นกรดสูง ก็จะต้องเติมสารที่เป็นด่างจำพวก Buffer หรือ Soda ash เพื่อปรับค่า pH ในน้ำก่อน ซึ่งสารคลอรีนนั้นอาจมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนังได้ ดังนั้นการละลายคลอรีนจึงควรทำในช่วงเย็นหลังจากที่ใช้สระเสร็จแล้ว และจะต้องเปิดเครื่องกรองทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงด้วย สำหรับสระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ค่าดูแลรักษาด้วยคลอรีนประมาณ 3,000 – 4,000 บาทต่อเดือน ( ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานสระว่ายน้ำ และสภาพอากาศ)

ระบบน้ำเกลือ
เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยเกลือ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุภาพ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังอีกด้วย แต่มีราคาค่าติดตั้งค่อนข้างสูง และมีความเป็นด่างทำให้น้ำในสระมีรสกร่อยเล็กน้อย สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดน้ำเกลือประมาณ 40,000 – 50,000 บาท และเสียค่าดูแลรักษาหลังจากนั้นประมาณ 400 – 600 บาทต่อเดือน

ระบบโอโซน
เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ด้วยการผลิตก๊าซโอโซนจากเครื่องอัดอากาศมาบำบัดน้ำในสระโดยตรง เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะไม่มีสารตกค้างในน้ำ แต่ระบบนี้จะมีระยะเวลาในการฆ่าเชื้อโรคสั้นกว่าระบบอื่น และมีราคาค่าติดตั้งสูง สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดแบบโอโซนประมาณ 150,000 – 200,000 บาท

รูปทรงของสระว่ายน้ำ
รูปทรงของสระว่ายน้ำแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ๆ คือ รูปทรงเรขาคณิต และรูปทรงอิสระ การเลือกรูปทรงสระว่ายน้ำนั้นไม่มีข้อกำหนดหรือกฎหมายบังคับ ขึ้นอยู่ความชอบส่วนบุคคล คอนเซ็ปต์ของผู้ออกแบบ และ ความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นสำคัญ รูปทรงของสระว่ายน้ำที่ดีควรจะดูกลมกลืนและช่วยเสริมสไตล์บ้านให้ดูโดดเด่นมากขึ้น เช่น สระว่ายน้ำรูปทรงเรียบๆที่ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สงบ เท่ ก็จะเหมาะกับบ้านสไตล์มินิมัลหรือบ้านสไตล์โมเดิร์น ส่วนสระรูปทรงอิสระก็จะเหมาะกับบ้านที่ต้องการความรู้สึกผ่อนคลายหรือไม่เป็นทางการมากนัก อย่างเช่น บ้านสไตล์ทรอปิคัล บ้านสไตล์เรโทรยุค 1950-1960 แต่อย่างไรก็ดีเราไม่ควรออกแบบให้รูปทรงสระมีซอกมุมมากหรือพิสดารจนเกินไป เพราะอาจทำให้มีปัญหาเรื่องการปูกระเบื้องพื้นและผนังของสระว่ายน้ำ และการทำความสะอาดได้ครับ